Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการออกกําลังกาย และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกิน ได้แก่ เพศ ประวัติครอบครัว รายได้ของครอบครัว พฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการออกกําลังกายของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนสาธิต "พิบุูลบำเพ็ญ" มหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 251 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ไคว์-แสควร์ และอัตราเสี่ยง (Odds ratio)
ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีภาวะโภชนาการอยู่ในเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 65.7 ภาวะโภชนาการเกิน ร้อยละ 27.5 และต่ำกว่าเกณฑ์ร้อยละ 6.8 พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เหมาะสมและปฏิบัติ 5-7 วันต่อสัปดาห์มากที่สุดคือ การรับประทานอาหารมื้อเช้า รองลงมาคือ การรับประทานอาหารมื้อเช้า กลางวัน เย็น ครบ 3 มื้อต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 68.1 และ 67.3 ตามลำดับ ส่วนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมคือ การรับประทานอาหารหรือขนมจุบจิบ รองลงมาคือ การรับประทานอาหารมื้อเย็นปรติมาณมากกว่า มื้ออื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 24.7 และ24.3 ตามลำดับ การบริโภคชนิดของอาหารที่เหมาะสมและปฏิบัติ 5-7 วันต่อสัปดาห์มากที่สุด คือ การรับประทานเนื้อสัตว์ เช่น ปลา หมู ไก่ รองลงมาคือ การดื่มนมรสจืดหรือนมพร่องมันเนย คิดเป็นร้อยละ 70.5 และ 38.6 ตามลำดับ ส่วนการบริโภคชนิดอาหารที่ไม่เหมาะสม คือ การดื่มนมเปรี้ยวนมรสหวานหรือนมรสช๊อกโกแลต รองลงมาคือ การรับประทานขนมถุงขบเคี้ยว กรุบกรอบ เช่นมันฝรั่ง ข้าวเกรียบ คิดเป็นร้อยละ 33.9 และ10.4 ตามลำดับ นักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการออกกำลังกายยังไม่เพียงพอ คิดเป็นร้อยละ 50.6 และออกกำลังกายอย่างเพียงพอ คิดเป็นร้อยละ 42.2 กิจกจจมที่ปฏิบัติมากที่สุด คือปัดฝุ่น-กวาดบ้าน และเดินเร็ว
ปัจจัยด้านเพศ และประวัติครอบครัวมีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินของนักเรียนที่ระดับนัยสําคัญทางสถิติ .05 โดยเพศชายมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโภชนาการเกิน1.82 เท่าของเพศหญิงและนักเรียนที่มีประวัติครอบครัว (บิดาและ/หรือมารดา) มีภาวะอ้วนลงพุงมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะโภชนาการเกิน 3.46 เท่า ของนักเรียนที่ประวัติครอบครัวไม่มีภาวะอ้วนลงพุง ส่วนรายได้ของครอบครัวไม่มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินของนักเรียนที่ระดับนัยสําคัญทางสถิติ .05
พฤติกรรมการรับประทานอาหารครอบ 5 หมู่ พฤติกรรมการรับประทานอาหารหรือขนมจุบจิบ พฤติกรรมการชอบคุยหยอกล้อกันขณะรับประทานอาหาร และพฤติกรรมการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น แหนม ปลาร้า มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกิน ส่วนพฤติกรรมการออกกำลังกาย ไม่มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินของนักเรียนที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05