Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่่อเปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวนกับเกณฑ์ร้อยละ 75 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนหลังได้รับการเรียนรู้แบบสืบสวนกับเกณฑ์ร้อยละ 75 วิธีดำเนินการวิจัยประกอบด้วย 1) การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน 2) สรา้งแบบวัดทักษะการแก้ปัญหาและให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การประยุกต์ของฟังก์ชั่นตรีโกณมิติและหาคุณภาพเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล และ 3) ทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวนและแบบวัดทักษะการแก้ปัญหาและการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การประยุกต์ของฟังกืชั่นตรีโกณมิติ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี จำนวน 24 คน ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test for One Sample ผลการวิจัยพบว่า
1. ทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน เรื่องการประยุกต์ของฟังก์ชั่นตรีโกณมิติ สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน เรื่อง การประยุกต์ของฟังก์ชั้นตรีโกณมิติ สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05