Abstract:
จากการหาชนิดและปริมาณกรดไขมันในฟองน้ำทะเลบริเวณหินหลักแรดจังหวัดชุมพร โดยเก็บตัวอย่างเดือนมีนาคม 2554 สกัดหาปริมาณไขมันรวมด้วยวิธีของ Bligh & Dyer ทำการแยกกลุ่มของไขมันในตัวอย่างฟองน้ำด้วยเทคนิค Solidphase extraction (SPE) จากนั้นหาชนิดและปริมาณกรดไขมันด้วย GC/FID ผลการศึกษาพบปริมาณไขมันรวมอยู่ในช่วงร้อยละ 0.38-2.74 น้ำหนักสด ปริมาณสูงสุดพบในตัวอย่างฟองน้ำสีน้ำตาล Petrosia (Petrosia) order Haplosclerida องค์ประกอบของไขมันที่พบมากที่สุดเป็นชนิด neutral lipid (22.29-69.72% total lipid) โดยคุณลักษณะกรดไขมันที่พบในชั้นไขมันมีความแตกต่างกันโดยกลุ่มตัวอย่าง Petrosia (Petrosia) (CHUMP-A-POR02), Callyspongia (Chadochalina) Callyspongia (Chadochalina) (CHUMP-A-POR04) ใน neutral lipids, glycolipids, phospholipids
มีคุณลักษณะเป็นกรดไขมันชนิดอิ่มตัว (SFAs) โดยพบกรดไขมัน palmitic acid (C16:0) ปริมาณสูงสุด (7.26-28.05%TFA) ส่วนในตัวอย่าง Chathria (Thalysias) (CHUMP-A-POR03) Pseudoceratina purpurea (CHUMP-A-POR05) และ Cacospongia sp. (CHUMP-A-POR06) ใน neutral lipids, glycolipids มีคุณลักษณะเป็นกรดไขมันชนิดอิ่มตัว พบ palmitic acid ในปริมาณ 7.92-42.90%TFA แต่ใน phospholipids มีคุณลักษณะเป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFAs; C16:2n4, C20:4n6, C20:5n3 และ C20:6n3) และกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 (EPA, DHA) พบสูงใน phospholipids ของฟองน้ำเชือก Clathria (Thalysias) (CHUMP-A-POR03) order Poecilosclerida ในปริมาณร้อยละ 15.47 และ 14.12 ตามลำดับ ส่วนในตัวอย่างเชื้อแบคทีเรียที่คัดแยกจากฟองน้ำทะเล พบคุณลักษณะของกรดไขมันเป็นชนิดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFAs) ในปริมาณร้อยละ 11.98-32.05 ของปริมาณกรดไขมันทั้งหมด โดยพบองค์ประกอบหลักของกรดไขมันเป็น vaccenic acid (C18:In7) and palmitic acid (C16:0) โดย vaccenic acid ตรวจพบปริมาณสูงสุด ร้อยละ 35.31 ของกรดไขมันทั้งหมด