Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมสุขภาพในเด็กวัยเรียน และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.4-ป.6 โรงเรียนในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดชลบุรี จำนวน 246 ราย โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถาม 8 ชุด ได้แก่ ข้อมูลทั่วไป พฤติกรรมสุขภาพสำหรับเด็กวัยเรียน พื้นอารมณ์เด็กวัยเรียน สภาพแวดล้อมที่บ้านการสนับสนุนสังคม การรับรู้ความสามารถตนเอง ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ มีค่าความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง .70-.96 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา Pearson’s correlation coefficients, point bi-serial coefficients, hierarchical และ stepwise multiple regression analyses
ผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมสุขภาพโดยรวมเท่ากับ 103.60 (S.D. = 10.61) ตัวแปรในปัจจัยเสี่ยงที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับพฤติกรรมสุขภาพ คือ เพศ (หญิง) (r = .201, p < .01) พื้นอารมณ์ด้านการติดตามงาน (r = .169, p < .01) และกิจกรรมเคลื่อนไหว (r = -.122, p < .05) และลักษณะครอบครัว (เดี่ยว) (r = .132, p < .05) และตัวแปรในปัจจัยปกป้องที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับพฤติกรรมสุขภาพ คือ การสนับสนุนทางสังคม (r = .306, p < .001) การรับรู้ความสามารถตนเอง (r = .458, p < .001) ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ (r = -.127, p < .05) และทัศนคติต่อสุขภาพ (r = .116, p < .05) การรับรู้ความสามารถตนเอง เพศของเด็ก (หญิง) และการสนับสนุนทางสังคมร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมสุขภาพเด็กวัยเรียนได้ ร้อยละ 28.1 (F3,209 = 27.164, p < .001) การรับรู้ความสามารถตนเองอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมสุขภาพได้มากที่สุด คือ ร้อยละ 21.0 ( = .413, t = 6.797, p < .001) รองลงมาคือ เพศของเด็ก (หญิง) ร้อยละ 4.2 ( = .183, t = 3.098, p < .01) และสนับสนุนทางสังคม ร้อยละ 2.9
( = .179, t = 2.923, p < .01)
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมสุขภาพในเด็กวัยเรียนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ พยาบาลและผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการดูแลสุขภาพเด็กควรส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กวัยเรียนมีการรับรู้ความสามารถตนเองในด้านสุขภาพที่ถูกต้องมากขึ้น รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านอารมณ์ สิ่งของ และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมีสุขภาพดี เพื่อให้เด็กวัยเรียนได้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีและเหมาะสมมากขึ้น