Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการวิเคราะห์สาเหตุและพฤติกรรมการกระทำผิดซึ่งเป็นการศึกษาเพื่อวิเคาะห์หาสาเหตุของการกระทำความผิดโดยใช้ศิลปะภาพเขียน การเก็บข้อมูลจะใช้วิธีการเก็บข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์และการตีความจากภาพเขียนซึ่งเป็นการทำงานผ่านการบันทึกข้อมูลเชิงประจักษ์
ผลการศึกษาพบว่า ภาพเขียนที่ผ่านการวิเคราะห์ผลของผู้ต้องขังในเรือยจำพิเศษพัทยาทั้งหมดในการใช้ทฤษฎีแบะเส้นทางสัญลักษณ์ในทางศิลปะมาประกอบเป็นข้อมูลช่วยในการวิเคราะห์หาสาเหตุของการกระทำผิดของผู้ต้องขังพบว่า ภาพเขียนสามารถอธิบายเรื่องพฤติกรรม ที่เป็นมาของสาเหตุในการประกอบอาชญากรรมได้ พบว่าสีเป็นทฤษฎีที่สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยในการอธิบายได้อย่างลึกซึ้งถึงสาเหตุในการทำความผิด เรื่องของความรู้สึกแลอารมณ์ซึ่งเป็นพฤติกรรมของมนุษย์เป็นเรื่องสภาพจิตของผู้ต้องขังในการบอกถึงพฤติกรรมได้ ในการวิเคราะห์ในเรื่องสีที่ชอบสามารถสะท้อนถึงความปรารถนาภายใน ซึ่งสามารถโยงไปถึงตัวเนื้อหาภายใน การถ่ายทอดโดยภาพการแสดงออกจากภาพเขียน เป็นการแสดงออกโดยการทำงานระหว่างจิตที่ปกติของผู้ต้องขังในขณะนั้นได้ โดยใช้หลักการวิเคราะห์จากทฤษฎีทางการตีความทางศิลปะว่า ศิลปะสามารถอธิบายผลได้ การยืนยันผลทางข้อมูลแบบสัมภาษณ์สามารถอธิบายถึง สภาวะจิต ความต้องการของจิต ที่ส่งผลกระทบจากภายในสู่ภายนอกโดยผ่านงานศิลปกรรม
จากการวิเคราะห์ในส่วนของผู้ต้องขังพบว่า ความสัมพันธฺระหว่างภูมิหลังของครอบครัวของผู้ต้องขังนำไปสู่ประเด็นสาเหตุการทำผิด สภาวะแวดล้อมทางสังคมเป็นสาเหตุและที่มาของพฤติกรรมการทำผิด
จากการวิจัยโดยนำทฤษฎีที่เกี่ยวข้องพบว่าภูมิหลังของผู้ต้องขังเป็นสาเหตุหนึ่งในการสร้างให้ผู้ต้องขังมีพฤติกรรม และสร้างความเชื่อและสร้างปมด้อยในวัยเด็กส่งผลต่อมาจนกระทั่งเข้าสู่วัยรุ่นแบะส่งผลต่อไปข้างหย้า และเป็นการสร้างประเด็นในการเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาภายในครอบครัวอันเกี่ยวเนื่องมาถึงสาเหตุในการประกอบอาชญากรรมและพฤติกรรมเบี่ยงเบน
การศึกษาวิจัยเรื่องการใช้ภาพเขียนพบว่าสามารถช่วยผู้ต้องขังและยับยั้งลดความกดดัน ความก้าวร้าวลงได้ วิเคาะห์ได้ว่าทฤษฎีทางศิลปะนำมาใช้ในการหาสาเหตุในการทำความผิดได้อย่างลึกซึ้ง และการนำแนวทางวิชาความรู้เรื่องการตีความทางภาพเขียนมาใช้ในการจำแนกผู้ต้องขังก่อนนำผู้ต้องขังเข้าไปสู่กระบวนการบำบัด ลดความเครียดและเพื่อเยียวยาให้ผู้ต้องขังกลับคืนเป็นคนดีสู่สังคม สามารถนำศิลปกรรมมาเพื่อ บำบัด โดยการแสดงออก และสร้างสรรค์ โดยการฝึกสมาธิโดยการสร้างสรรค์ และศิลปกรรมยังเป็นการฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังด้วย
การใช้ศิลปะเพื่อช่วยในเรื่องการสืบสวนสอบสวนพบว่าภาพเขียนสามารถตอบคำถามต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องขังเข้ามารับโทษในเรือนจำสามารถใช้การวาดภาพเพื่อช่วยงานสืบสวนในเรื่องของผู้ที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้เนื่องจากการพิการไม่สามารถสื่อสารด้วยวาจาได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำวิธรการสืบค้นในกรณีที่ผู้ต้องขังไม่สามารถให้ปากคำได้โดยลดความตึงเครียดโดยใช้การวาดภาพ หรือ การเขียนบอกเล่า หรือเพื่อการป้องกันการเกิดปัญหาในเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษย์ระหว่างผู้ต้องหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่