Abstract:
การศึกษาปัจจัยด้านการบริหารการจัดการสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผลต่อตัดสินใจของนักเที่ยวชาวไทยที่มาใช้บริการของน้ำพุร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยว ปัจจัยด้านการบริหารการจัดการสถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ ด้านกายภาพของทรัพยากรท่องเที่ยว ด้านคุณค่าของทรัพยากรท่องเที่ยว ด้านความนิยมของทรัพยากรท่องเที่ยวด้านความปลอดภัยของทรัพยากรท่องเที่ยว และด้านความเปาระบางของสิ่งแวดล้อมในทรัพยากรท่องเที่ยวที่มีผลต่อการตัดสินใจมาเที่ยวน้ำพุร้อนสวนสาธารณะรักษาวาริน อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวน้ำพุร้อนสวนสาธารณะรักษะวารินจำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลสถิติที่ใช้ คือค่าความถี่ ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ Pearson Chi-square
ผลการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย มีอายุระหว่าง 20-30 ปี ศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี มีสถานภาพโสด ประกอบอาชีพเป็นนักเรียน/นักศึกษา มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 10,000 บาท และส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคใต้ สำหรับปัจจัยด้านการบริหารการจัดการน้ำพุร้อน ด้านกายภาพ และด้านความนิยมของทรัพยากรการท่องเที่ยวในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านคุณค่า ด้านความปลอดภัย และความเปราะบางของสิ่งแวดล้อมของทรัพยากรท่องเที่ยวในภาพรวมอยู่ในระดับมาก นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยว/พักผ่อน จำนวนสมาชิกที่เดินทางมาท่องเที่ยวอยู่ระหว่าง 2-4 คน เดินทางมาท่องเที่ยวตามสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว นิยมท่องเที่ยวแบบไม่พักค้างแรมมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยโดยเฉลี่ยต่ำกว่า/เท่ากับ 500 บาท และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่า 7 ครั้ง
ผลการทดสอบสมมุติฐาน พบว่า สมมติฐานที่ 1 ปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยวมีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจมาเที่ยวน้ำพุร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน และสมมติฐานที่ 2 ปัจจัยด้านการบริหารการจัดการสถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ ด้านกายภาพ ด้านคุณค่า ด้านความนิยม ด้านความปลอดภัย และด้านความเปราะบางของสิ่งแวดล้อมในทรัพยากรท่องเที่ยวที่มีผลต่อการตัดสินใจมาเที่ยวน้ำพุร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน