dc.contributor.author |
เยาวลักษณ์ บรรจงปรุ |
|
dc.contributor.author |
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร |
|
dc.contributor.author |
วนิดา โอฬารกิจอนันต์ |
|
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์ |
|
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะเภสัชศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2019-03-25T08:45:57Z |
|
dc.date.available |
2019-03-25T08:45:57Z |
|
dc.date.issued |
2535 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/199 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบ ความรู้ เจตคติ และพฤติกรรมการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ตลอดจนศึกษาปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อการดูแลตัวเองทางด้านสุขภาพ ทำการรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ด้วยการใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล ซึ่งเป็นผู้ประสานงานฝึกอบรมและนิเทศ ในการรวบรวมข้อมูลได้รับแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ฉบับสมบูรณ์จำนวน 300 ชุด คิดเป็นร้อยละ 100.0 ทำการวิเคราะหืข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และารทดสอบค่าเอฟ (F-test) วิเคราะห์ปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณชนิดลดหรือเพิ่มตัวแปรเป็นขั้นๆ (Stepwise Multiple regression) ผลการศึกษาพบว่า 1. ผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออกโดยส่วนรวม มีความรู้เเละเจตคติในการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพอยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 73.12 และร้อยละ 86.60 ตามลำดับ) ส่วนพฤติกรรมในการดูแลตนเองพบว่า อยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 54.24) 2. เมื่อเปรียบเทียบความรู้ เจตคติ และพฤติกรรมการดูแลตัวเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมทั้ง 3 จังหวัดในภาพรวมพบว่าเเตกต่างกัน (p<.05) เมื่อทดสอบรายคู่พบว่า ผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการดูแลตนเองด้านสุภาพดีกว่าจังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง แต่การดูแลตนเองด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยองไม่แตกต่างกัน (p<.05) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านความรู้ และด้านเจตคติในการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพ ของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราดีกว่าจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง แต่ไม่พบความแตกต่างกันของจังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง สำหรับด้านพฤติกรรมการดูแลตนเองทั้ง 3 จังหวัดนั้นไม่พบความแตกต่างกัน (p<.05)
3. การศึกษาปัจจัยคัดสรรพบว่าตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กับการดูแลตนเองด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก มีเพียงตัวปรเดียวกันคือจำนวนปีที่ศึกษาอธิบายได้ว่าจำนวนปีที่ศึกษาเพิ่มขึ้น 1 ปี จะทำให้การดูแลตนเองทางด้านสุภาพ ของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.61 คะแนน The purposes of this study were to identify the extent of self care related to health of industrial workers in the Eastern region of Thailand, to compare knowledge, attitude, and behavior among industrial workers in Chachoengsao, Chonburi , and Rayong, and to determine the relationship between selected background variables and self car related to health Questionnaires and interviewing were used to collecting data for quantitative and qualitative methods. The researchers and the personnel who are the coordinators, trainers, and supervisors collected the data by participation. The complete 300 questionnaires and interview froms were returned in the percentage of 100 . The percentage, means, and standard deviations were used to determine the extent of self care related to health of industrial workers in the Easter region of Thailand. An F test was perfoned to compare the means of Knowleage, attitude, and behavior related to health of industrial workers in 3 provinces. A stepwise multiple regression was used to test to test the relationship between the selected regression was used to test the relationship between the selected background variables and self car related to health of industrial workers in the Eastern region of Thailand.
Major finding of the study were : 1.general workers in the Eastern region of Thailand had knowledge and attitude in self care related to health in a high level (73.12% and 86.60% simultaneously), but had the behavior in self care related to the health in a moderate level (54.24%) 2. There were significant differences among the means of knowledge, attiude, the behavior related to the health of industrial workers in the 3 provinces. In general, the industrial workers in Chahoengsao had better self care related to health between the industrial w orkers in Chonburi and Rayonng, (p>.05).When we closely investigated, it was reveald that the knowledge and attitude in self care related to health of industrial workers in Chachonengsao province were significant higher than those in Chonburi and Rayong. There were significant differences about the behavior in self care related to the health among the industrial workers in Chachoengsao, Chonburi, and Rayong (p>.05). 3. There was a positive relationship between the number of year of study and self care related to health of industrial workers in the Eastern region of Thailand when controlling for selected increase 0.61 scores in self car related to health. |
th_TH |
dc.description.sponsorship |
สนับสนุนโดยทุนอุดหนุนการวิจัยงบประมาณแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ 2535 |
en |
dc.language.iso |
th |
th_TH |
dc.publisher |
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
th_TH |
dc.subject |
การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง |
th_TH |
dc.subject |
ลูกจ้าง - - สุขภาพและอนามัย |
th_TH |
dc.subject |
สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
th_TH |
dc.subject |
สุขภาพ |
th_TH |
dc.subject |
โรงงาน - - ลูกจ้าง - - สุขภาพและอนามัย |
th_TH |
dc.subject |
โรงงาน - - ไทย (ภาคตะวันออก) |
th_TH |
dc.title |
การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพ ในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก |
th_TH |
dc.title.alternative |
Self care related to health of industrial works in the eastern region of Thailand |
th_TH |
dc.type |
Research |
th_TH |
dc.year |
2535 |
|