dc.contributor.author |
สรร กลิ่นวิชิต |
|
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะแพทยศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2019-03-25T09:07:15Z |
|
dc.date.available |
2019-03-25T09:07:15Z |
|
dc.date.issued |
2547 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1599 |
|
dc.description.abstract |
วัตถุประสงค์
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ภาวะผู้นําของผู้บริหาร คุณค่าของตนเอง บรรยากาศองค์กร กับ
สมรรถนะในการปฏิบัติงานของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยบูรพา
วิธีดําเนินการวิจัย
กลุ่มตัวอย่างจํานวน 117 คนโดยสุ่มจากประชากรกลุ่มบุคลากรผู้ปฏิบัติงานที่ศูนย์วิทยาศาสตร์
สุขภาพ มหาวิทยาลัยบูรพา ทั้งข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย ลูกจ้างประจํา และลูกจ้างชั่วคราวที่ไม่ได้มี
ตําแหน่ง ผู้บริหารตั้งแต่ระดับ หัวหน้างานขึ้นไป จํานวน 217 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัยเป็น
แบบสอบถามมี 5 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ได้แก่ เพศ อายุ ประสบการณ์ปฏิบัติงานในองค์กรและหน่วยงานที่สังกัด ตําแหน่งหน้าที่ที่ปฏิบัติอยู่ ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับการรับรู้ ภาวะผู้นําของผู้บริหาร ตอนที่ 3 การรับรู้คุณค่าของตนเอง ตอนที่ 4 การรับรู้บรรยากาศองค์กร และตอนที่ 5
แบบสอบถามเกี่ยวกับการรับรู้ด้านสมรรถนะในการปฏิบัติงานของตนเองโดยมีลักษณะคําถามให้เลือกแบบประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ซึ่งผู้วิจัยจัดทําขึ้นเอง และนําไปตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือโดยทดสอบความเที่ยงตรงกับผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน 3 ท่าน และนําไปทดลองใช้แล้วนํามาวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่น
ของแบบสอบถาม โดยการวิเคราะห์ความเชื่อมั่นใช้สูตรสัมประสิทธิ์อัลฟา (α coefficient) ของครอนบาค (Cronbach , 1981) ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .917 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยมาแจกแจงความถี่ และหาค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนการรับรู้ภาวะผู้นําของผู้บริหาร คุณค่าของตนเอง
บรรยากาศองค์กร และสมรรถนะการปฏิบัติงานของตนเองทั้งภาพรวมและรายด้าน การวิเคราะห์
ความสัมพันธ์ระหว่าง การรับรู้ภาวะผู้นําของผู้บริหาร คุณค่าของตนเอง บรรยากาศองค์กร และสมรรถนะการ
ปฏิบัติงานของตนเองโดยการคํานวณหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’Correlation
Coefficient) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยพื้นฐานของบุคลากร และการรับรู้ด้านต่าง ๆ โดยใช้
สูตรสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และทดสอบความมีนัยสําคัญของค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่คํานวณ
ได้โดยการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัย
1. การรับรู้ของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ เกี่ยวกับภาวะผู้นํา คุณค่าของตนเอง
บรรยากาศองค์กร และสมรรถนะในการปฏิบัติงานของตนเอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับ สูง และเมื่อจําแนก
รายด้าน พบว่า การรับรู้เกี่ยวกับสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การรับรู้คุณค่าของตนเอง และการรับรู้เกี่ยวกับ
ภาวะผู้นําของผู้บริหาร อยู่ในระดับสูง ส่วน การรับรู้บรรยากาศองค์กร อยู่ในระดับปานกลาง
2. การรับรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นําผู้บริหาร การรับรู้คุณค่าของตนเอง และการรับรู้บรรยากาศองค์กร มี
ความสัมพันธ์ทางบวกกับสมรรถนะในการปฏิบัติงานของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .001( r = .321 , .554 และ .365 ตามลําดับ)
3. ปัจจัยพื้นฐานด้าน ช่วงอายุของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มีความสัมพันธ์ทางบวก
กับบรรยากาศองค์กร และสมรรถนะในการปฏิบัติงานของตนเอง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ระยะเวลาในการปฏิบัติงานมีความสัมพันธ์ทางบวกกับบรรยากาศองค์กร อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
และมีความสัมพันธ์ทางบวกกับสมรรถนะในการปฏิบัติงานของตนเอง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ส่วนสถานะในการปฏิบัติงานของบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการรับรู้ภาวะผู้นําของ
ผู้บริหารและการรับรู้ความมีคุณค่าในตนเอง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการวิเคราะห์บรรยากาศองค์กรอย่างละเอียดต่อไปเพื่อศึกษาถึงรูปแบบและลักษณะที่เป็นบุคลิกภาพ
ขององค์กรเพื่อการพัฒนาการรับรู้ของบุคลากรต่อบรรยากาศองค์กรที่ดีขึ้น
2. ในการพัฒนาสมรรถนะการทํางานของบุคลากร ผู้บริหารต้องคํานึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวกับการรับรู้ต่างๆ ทั้ง
การรับรู้เกี่ยวกับภาวะผู้ยําของผู้บริหาร การรับรู้คุณค่าของตนเอง และการรับรู้บรรยากาศองค์กร และ
ผู้บริหารควรพัฒนาความรู้ ทักษะและพฤติกรรมการเป็นผู้นํา ให้ความสําคัญ ฝึกฝน สร้างสรรค์กิจกรรมที่
พัฒนาความมีคุณค่าในตนเองของบุคลากร
3. ควรนําข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงแนวทางการพัฒนาสมรรถนะการทํางานของบุคลากรอย่าง
เป็นรูปธรรม
4. เนื่องจากการศึกษานี้ มุ่งศึกษาเฉพาะกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน จึงควรศึกษาเชิงลึกในกลุ่มผู้บริหารด้วยเพื่อนํามา
เป็นฐานข้อมูลสํารับปรับปรุงการบริหารจัดกรองค์กรให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด
การนําไปใช้ประโยชน์
นําผลการวิจัยมาใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมบุคลากรให้มีความสามารถในการ
ปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น |
th_TH |
dc.description.sponsorship |
ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ |
en |
dc.language.iso |
th |
th_TH |
dc.publisher |
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
th_TH |
dc.subject |
บรรยาการศองค์การ |
th_TH |
dc.subject |
ภาวะผู้นำ |
th_TH |
dc.subject |
สมรรถนะในการปฏิบัติงาน |
th_TH |
dc.subject |
สาขาเศรษฐศาสตร์ |
th_TH |
dc.title |
ความสัมพันธ์ระหว่าง การรับรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นําของผู้บริหาร คุณค่าของตนเอง และบรรยากาศองค์กรกับสมรรถนะในการปฏิบัติงาน ของบุคลากรศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยบูรพา |
th_TH |
dc.type |
งานวิจัย |
|
dc.year |
2547 |
|