Abstract:
การวิจัยเรื่องแบบแผนการดูแลบุตรวัยขอบปีแรกของมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวี เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแบบแผนการเลี้ยงดูบุตรวัยขวบปีแรกของมารดาติดเชื้อเอชไอวี และศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการเลี้ยงดูบุตร ความต้องการการช่วยเหลือ และการวางแผนในอนาคตสำหรับบุตร กลุ่มตัวอย่างคือ มารดาหลังคลอดที่ติดเชื้อเอชไอวี ที่ได้รับการให้คำปรึกษาแล้ว และมีบุตรวัยขวบปีแรก วึ่งนำบุตรมารับบริการตรวจสุขภาพ ที่คลินิกสุขภาพเด็กดี ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2542 จำนวน 10 ราย โดยกลุ่มตัวอย่างสมัครใจเข้าร่วมการวิจัย เก็บข้อมูลที่บ้านของกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ร่วมกับการสังเกต โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงร่างที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นตรงตามเนื้อหาของการวิจัย ขณะสัมภาษณ์ใช้การจดย่อและการบันทึกเทปวิทยุ จากนั้นนำข้อมูลมาจัดกลุ่มและวิเคราะห์เนื้อหาผลการศึกษาพบว่า มารดาที่ติดเชื้อเอชไอวี เป็นมารดาอายุน้อย มีอายุระหว่าง 17-28 ปี มารดา 4 คน มีลูกเป็นคนแรก ที่เหลือมีลูกเป็นคนที่ 2 มีการศึกษาระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา มีรายได้ของครอบครัวค่อนข้างต่ำคือ 3,000-6,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหย่มีอาชีพแม่บ้าน สามีอาชีพรับจ้างรายวัน ลักษณะครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยว สัมพันธภาพในครอบครัวดี มีการรับรู้ต่อบทบาทการเป็นมารดาในทางบวก ทั้งหมดคิดว่าตนเองติดเชื้อจากสามีแบบแผนการเลี้ยงดูบุตรที่พบคือ กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดเลี้ยงลูกด้วยนมผสม ส่วนใหญ่จะเลี้ยงบุตรด้วยตนเอง มีการให้อาหารอื่นนอกจากนมก่อนเด็กอายุ 3 เดือน อาหารที่นิยมให้คือ กล้วยครูดและข้าวบด การทำความสะอาดขวดนมยังไม่ถูกต้องใช้วิธีการล้างด้วยน้ำยาล้างจานและลวกด้วยน้ำร้อน การทำความสะอาดร่างกายลูกเหมาะสม พาลูกไปรับวัคซีนครบตามกำหนดและมาตรวจสุขภาพตามแพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง เมื่อลูกไม่สบายจะพาไปพบแพทย์ ไม่มีปัญหาในเรื่องการปฏิบัติการเลี้ยงดูลูก แต่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ทำให้ต้องให้อาหารอื่นแทนนม ยังไม่มีการวางแผนในอนาคตสำหรับลูกอย่างชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้ดูแลลูก เพราะมารดาส่วนใหญ่ยังไม่เปิดเผยว่าตนเองติดเชื้อ แต่คาดหวังว่าญาติสนิทคือแม่ของตนสามารถดูแลลูกต่อให้ได้ มีความตั้งใจที่จะทำงานเก็บเงินไว้ให้ลูก ความต้องการการช่วยเหลือ ต้องการให้โรงพยาบาลมีนมผสมแจกฟรีอย่างพอเพียง และอยากให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีโอกาสได้งานทำ