Abstract:
โรคและแมลงในมันสำปะหลังเป็นปัญหาใหญ่ของเกษตรผู้ปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทย การเข้าทำลายของโรคและแมลงทำให้ผลผลิตลดลง การใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงทำให้เกษตรกรสูญเสียรายได้และส่งผลต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งการใช้พันธุ์ต้านทานเป็นวิธีหนึ่งที่ได้ผล เนื่องจากว่าได้มีรายงานว่าการพืชแบบสลับกันจะช่วยลดเข้าทำลายของโรคและแมลงในแปลงได้ การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการควบคุสการเข้าทำลายโรคและแมลงโดยการปลูกแถวสลับพันธุ์มันสำปะหลัง ได้ดำเนินการทดลอง 3 การทดลองระหว่างปี 2553-2555 การทดลองที่1 ประเมินคุณภาพและการแก่งแย่งแข่งขันของการเจริญเติบโตของท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง พบว่าน้ำหนักแห้งของท่อนพันธุ์และน้ำหนักแห้งต้น ใบ และรากที่อายุ 2 เดือนในมันสำปะหลัง 3 พันธุ์แตกต่างกัน ส่วนเปอร์เซนต์ความเข้มข้นของธาตุอาหารในท่อนมันสำปะหลังไม่แตกต่างกัน แต่เปอร์เซนต์ความเข้มข้นของธาตุฟอสฟอรัสแตกต่างกันที่อายุ 2 เดือน การทดลองที่ 2 ประมินการเข้าทำลายของโรคและแมลงต่อปลูกมันสำปะหลังแบบสลับและแบบเดี่ยวที่ใช้พันธุ์มันสำปะหลังที่อัตราส่วนแตกต่างกันในแปลงเกษตรกร พบว่ามีการเข้าทำลายเพลี้ยแป้งในแปลง ส่วนโรคและแมลงอื่นๆ พบเล็กน้อยหรือไม่พบเลย โดยมันสำปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 และห้วยบง60 ที่ปลูกสลับแบบ1:1 และ 2:2 พบจำนวนเพลี้ยแป้งสีเขียวน้อยกว่ามันสำปะหลังพันธุ์ห้วยบง 60 และระยอง 9 ที่ปลูกเชิงเดี่ยวที่ระยะเก็บเกี่ยว 10 เดือน น้ำหนักผลิตหัวมันสำปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์50 และห้วยบง60 ที่ปลูกสลับแบบ 1:1และ 2:2 มากกว่าพันธุ์ห้วยบง และระยอง9 ที่ปลูกเชิงเดี่ยวตามลำดับแต่ไม่แตกต่างกับพันธุ์เกษตรศาสตร์50 ที่ปลูกเชิงเดี่ยว ประสิทธิภาพของการปลูกแบบสลับโดยใช้ค่า LER (Land Equivalent Ratio) พบว่าการปลูกแบบสลับระหว่างพันธุ์เกษตรศาสตร์50 และห้วยบง60 ที่อัตรา1:1 มีค่ามากกว่า1 ในผลผลิตหัวมันสดและมันแห้งที่ระยะเก็บเกี่ยว 10 เดือน การทดลองที่3 ประเมินความพึงพอใจของเกษตรกรในการต้านทานโรคและแมลงในการปลูกมันสำปะหลังแบบสลับพบว่าเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังพอใจในการต้านทานโรคและแมลงของการปลูกสลับในระดับมากและต้องการปลูกมันสำปะหลังแบบสลับในอัตราส่วน 2:2 จากการศึกษาการปลูกสลับพันธุ์มันสำปะหลังสามารถลดการทำลายของเพลี้ยแป้งและลดความเสียหายของผลผลิตได้ดีกว่าการปลูกมันสำปะหลังเชิงเดี่ยว โดยขึ้นอยู่กับพันธุ์มันสำปะหลังที่ใช้ปลูก ระยะเวลาและความรุนแรงของการเข้าทำลาย